วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โกหก

โกหก หมายถึง ปด พูดเท็จ พูดไม่จริง

ทำไมคนเราถึงต้องโกหกล่ะนั่นสิคงไม่มีใครอยากโดนโกหกหรอก

แต่การโกหกนั้นมีหลายแบบมีทั้งโกหกแบบทำให้อีกฝ่ายสบายใจ

และโกหกเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นในสถานการณ์ที่คับขันหรือหลายๆอย่าง

การโกหกของคนบางคนที่รู้ดีแก่ใจบางทีก็อึดอัดที่ทำแต่บางทีก็สนุก

เอ่าสรุปแล้วโรคจิตอ่ะแต่ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม
ไม่ใครโกหกแล้วอีกฝ่ายไม่รู้ ถึงแม้ว่าจะรู้ช้าหรือรู้เร็วยังไงก็ต้องรู้อยุ่ดี
หว่าาาาาาาต้องการอะไรเลยมาเขียนเนี่ย55

นั่นสิอ๊ะๆแอบมีอะไร

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บางทีเราก็แก่แล้วเนอะ

เมื่อวันก่อนเพื่อนโทรมาหาบอกว่าให้ไปงานรับปริณยาด้วยอืมมมไปดิๆว่างก็ไป

และตอนนี้เราก็ต้องคิดทีสิทด้วยยุ่งๆงานก็เริ่มยอะแล้วด้วยเปิดเทอมปี4แล้ว

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยo___0!ตกใจอ๊ะะ

นี่เราแก่แล้วหรอต้องมาคุยกันถึงเรื่องรับปริณญาทำทีสิทโอ้วววววววววววววววววว

แล้วหลังจากนี้อเวลาที่เราจเอเพื่อนคงต้องถามแล้วว่าทำงานที่ไหนแต่งานหรือยัง

ลูกเป็นไงบ้างเฮ้ยยยยมันเร็วจังอ่ะ

มะก่อนจำได้ว่าพุ่งนี้ไปเรียนวิชาไรเรียนพิเศษมั้ยเข้าค่ายหรือเปล่า

ทำการบ้านให้ด้วยนะแกล้งอาจารย์กันเข้าโรงเรียนสายกันก็แค่ต้องเก็บขยะ

ใจหายมากก็มะตอนที่ต้องออกจากโรงเรียนและแยกย้ายกับเพื่อนแล้วต้องมาถามว่ามึงเรียนที่ไหน

คณะอะไร ตอนนี้สิมันไปถึงไหนแล้วเวลามันเดินเร็วเหลือเกินหลายๆคนก็คงจะอยยากย้อนเวลากลับไปช่วงนั้นๆ
ที่ตัวเองมีความสุขแต่ก็ทำได้แต่เก็บไว้เป็นความทรงจำ น่าใจหายแต่ก็น่าปลื้มใจที่มาถึงตรงนี้
เรามาอยู่ตรงนี้แล้วนะถ้าป๊ากับแม่เห็นเราประสบความสำเร็จคงดีใจมาก

แต่มันน่าใจหายจิงๆและที่น่าใจหายคือตอนนี้รักมหาลัยไปแล้วแต่ก็ต้องจบต้องออก
ความรู้สึกเดียวกับต้องออกจากโรงเรียนตอนนั้นเลยน่ากัวจังกับสถานะใหม่ของตัวเรา
เราจะเปลี่ยนจากนักเรียนเป็นนักศึกษาและอีกไปนานเราจะเป็นคนวัยทำงาน!!!!!!!!!!!!!!

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มองคนละอย่าง

อ่านหนังสือมาเรื่องความรักของคนธรรมดาและคนตาบอด
คนปกติเค้าก็มองความรักแบบสวยงามบ้างคนที่ผิดหวังก็มองว่าไม่ค่อยดีบ้าง
แต่ก็ล้วนแต่ใช้ตามองก่อนทั้งนั้นโดยที่มองจากตัวบุคคลและตัวเรา
แต่คนตาบอดสิเค้ามองแง่ที่เป็นเค้าและดีจังอ่ะ
เค้าบอกว่าไม่รุ้หรอกว่าผู้หญิงหน้าตาดีเปนยังไงแต่ถ้าใครก็ตามมีน้ำเสียงที่ถูกใจ
มีอัธยาศัยไมตรีมีน้ำใจนั่นแหละคือผู้หญิงสวยของเค้า ว๊าวววววววววว
เออนึกแล้วก็อิฉาคนตาบอดเนอะว่าโลกของเค้าก็คงจะมีแต่คนสวยๆเต็มไปหมดอ่ะ
ดีจังมันมีอะไรให้เรามองความรักในแง่ดีอ่ะแบบว่าในหนังสือเึค้าังทิ้งท้ายว่า
มีคนบอกว่า ความรักทำให้คนตาบอด 
แต่ใครจะรู้   ถ้าตาบอดอยู่แล้ว .​....ความรักมันอาจทำให้ตาสว่าง
โหวววววววววววววววววววววววววววววววววว

อืมเราคงต้องมองความรักแบบนั้นดูบ้างสมัยนี้ใครๆก็มองกันแค่ภายนอก
ไม่รักกันจริงเหมือนเมื่อก่อนคงเพราะอะไรหลายๆอย่างมันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและทำให้คนมั่นใจ
ว่าการอยู่คนเดียวมันไม่ตายมั้งเลยอยากทำอะไรก็ทำไม่แคร์กันไม่รักกัน
สรุปแล้วไอ้ที่เขียนมาไม่มีสาระฮ่าๆๆๆ

แต่อ่านแล้วก็แค่อยากให้คนเราลองมองกันดีๆ
เอามุมมองคนอื่นมาใช้บ้างเผื่อจะเจออะไรดีๆในชีวิตอย่างที่ไม่เคยเจอ
เราเชื่อว่าถ้าเราไม่เลือกที่จะมอบความรักให้ใครก่อน
แล้วใครล่ะจะกล้าเอาความรักความจริงใจมาให้เราน่าคิดนะ
ลองทำดูเซ่!!!!!

^________________^

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เข้าใจแล้วในระดับหนึ่ง


ความรักของพ่อแม่ที่เค้าบอกว่ามีให้ลูกมากกกกกกกกกก มากเกินคำบรรยาย

เราก็รู้ว่ารักมาแล้วมันมากแบบไหนก็ไม่รู้หรอกว่ามากจนรู้สึกยังไง

จนได้มามีหลานหนึ่งคนที่เรียกว่าเห่อไม่ได้เพราะไม่ใช่แค่เห่อเพราะว่าถ้าแค่เห่อคงไม่ยาวนานขนาดนี้
หลานคนแรกที่คอยดูแลพี่ก่อนคลอดทุกคืนเวลาพี่เราตื่นจนวันที่คลอดออกมาเจอหน้ากัน
อุ้มหลานคนแรกชื่อ ซื่อเจี๋ย ^^ ดูแลอยู่ด้วยกันตลอด1เดือนทุกวันทุกเวลาเหมือนเป็นแม่เองเลยอ่ะ
ขนาดตัวเราเองเป็นคนที่ตื่นยากมากแต่กลับได้ยินเสียงหลานที่ร้องเพียงแอะเดียวอาจป็นเพราะความกังวลว่า
เค้าจะเป็นอะไรไม่สบายตัวรึป่าว อึ หรือฉี่มั้ย นอนควำ่หายใจออกหรือเปล่าหิวมั้ย
รักมากจนเห็นว่าหลานเจ็บไม่ได้ไม่อยากให้ป่วยไม่อยากให้เป็นอะไรพอจะเข้าใจแล้วว่าพ่อแม่คิดยังไง
และรัก ดูแลเรารู้สึกยังไง จนถึงตอนนี้ยังไงก็ยังรักและรักมากๆๆๆขึ้นไปอีกมันเลยไม่ใช่แค่ความเห่อแน่นอน

นี่ขนาดเราไม่ใช่คนที่อุ้มท้องและคลอดเองนะและลองนึกถึงคนที่เป็นพ่อแม่ดูสิเค้าจะรักและเป็นห่วง
ทนุถนอมเราขนาดไหน เวลาที่เรากลับบ้านไปตอนหลาน4เดือนแล้วจำเราไม่ได้เรายังร้องไห้เลยอ่ะ
และถ้าลูกพูดอะไรไม่ดีว่าพ่อแม่ แล้วท่านจะเสียใจแต่ไหนนึกขึ้นมาเลยว่าเราทำอะไรมั่งดูเป็นลูกที่เลวเลย
เสียใจจังตอนนี้พอจะเข้าใจว่าควรจะทำยังไงแล้วนึกถึงความรู้สึกป๊าแม่มากขึ้นเยอะก่อนจะพูดอะไร
บอกรักป๊ากับแม่มากและบ่อยขึ้นรู้สึกว่าถ้าลูกเราบอกเรา เราก็คงรู้สึกอีและมันอิ่มอ่ะ อิ่มตรงใจ

ว๊าาาาาาอยากกลับบ้านเลยอะเขียนเรื่องนี้คิดถึงเจี๋ยยยยยยยย
อยากไปกอดป๊ากะแม่ด้วยยยยยย

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บ๊อกแบ๊กก่อนนอน

บ๊อกแบ๊ก................คือน้องตุ๊กตามือตัวหนึ่งที่ต้องคุยกันก่อนเข้านอน

เวลารู้สึกไม่ดีก็จะให้บ๊อกแบ๊กกอดเพราะรู้สุกว่าเหมือนมีคนมากอดจริงทั้งๆที่มันก็เป็นมือเราเอง

ตลกดีนะคนเรา  มีงานที่อาจานบอกว่าให้เอาของที่ชอบไป20ชิ้น


บ๊อกแบ๊กคืออันแรกเลยที่หยิบงแรกที่คิดอาจจะเป็นเพราะมันคือเพื่อนมั้ง
และก็เปนของที่อาจารย์เลือกให้ไว้ทำงานเช่นกัน

ลองมองในมุมที่ไม่ได้ผูกพันมันก็แปลกดีเหมือนที่อาจารย์ว่าเออมันคือตัวอะไรก็ไม่รู้

ดูมหัศจรรย์ดีะนไม่ว่าใครคนไหนได้หยิบมันมาใส่ก็ต้องเหมือนมีอีกคนในร่างเออจิงนะ

ใส่มือเดียวก็เท่ากับมีสองคนถ้าใส่สองมือเราก็เหมือนคุยกันสามคนเฮ้ยยยยยย

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยเท่อ๊ะะะ

ว๊าวววววววววววววววอาจารย์สอนให้มองแบบเท่ม๊ากอ๊ะจิงนะถ้าเราคิดได้เยอะและหลากหลาย

หลายมุมมองทั้งรูปธรมมนามธรรมถ้ามองแล้วคิดได้กับทุกๆอย่างทุกๆเรื่อง

เราก็อาจจะสนุกกับสิ่งที่เห็นที่รับรู้มามากขึ้น เพียงแต่ต้องคิดให้เป็นเท่านั้นเอง


แต่ไอ้คิดให้เป็นนี่สิต้องฝึกนะขอนู๋ใช้เวลาในการฝึกหน่อยค่า^^

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไอค๊อกแค๊กกะด๊อกกะแด๊ก


ตอนนี้ทุกคนกลับต้องใส่แมสปิดปากเพราะโรคระบาด

น่ากลัวและไกล้ตัวเกินไป

ไวรัส2009นี่มันใครคิดค้นมานะ 

มันเป็นไปได้หรือเปล่าว่า อาจมีคนอยู่เบื้องหลัง

ที่กำลังคิดวางแผนลดจำนวนประชากรโลก!!!! 

จึงให้คนคิ้ดค้นและสร้างโรคที่ยังไม่มียามาเพิ่มๆๆๆ

โรคนู้นโรคนี้ ห๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถามว่าทุกวันนี้มีกี่โรคแล้วที่ทางการแพทย์ยังคิดหายารักษาที่หายขาดไม่ได้
 
หรือเพราะมนุษย์สมัยนี้ตายยากขึ้น เพราะมียารักษาโรคที่ดีและทันสมัย


หรือเป็นเพราะการแพทย์ในปัจจุบัน ฉลาดมากเกินไปจนต้องหาอะไรที่ทำแล้วมันท้าทายความสามรถ

มันเลยเกิดโรคอะไรเพิ่มขึ้นๆๆอย่างรวดเร็วอย่างทุกวันนี้




โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย  กลัวอ๊าาาาาาาา

.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.

หรือต่อจากนี้อีกหน่อย


ไวรัสระบาด สุดท้ายมนุษย์จะกลายเป็นซอมบี้


เอ๊ะ................หรือว่าเราคิดมาไปเองหว่าฮ่าๆๆๆๆๆ

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แพนด้าน้อยชื่ออะไรดีเอ่ย

ส่งมากันเร๊วววววววววววววว

ส่งมากันเยอะๆ ช่วยกันร่วมมือตัดเศษกระดาษส่งมาค่ะ

ชื่ออะไรดี จิงเทียน หลินช่วง หมิ๋งๆ อาตี๋อาหมวยอาหมีแหม่ๆๆๆๆ

มันสสสสสสสส์กันใหย่เลยนะคะคนไทย

ไหนรัฐบาลบอกว่าให้ช่วยกัน ลดโลกร้อนช่วยกันคิดก่อนจะทำอะไร
และส่งไอที่ตั้งชื่อไปเป็นจำนวนเท่าไหร่สุดท้ายก็เอาไปทิ้งอยู่ดี
ขยะเกลื่อนเมือง ใช้งานไม่ได้
และช่วยลดกันยังไง ดีดี๊ดี นี่แหละsaveช่วยโลกค่า

5555555555555ทำกันต่อไปนะคนไทย

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แพนด้า

โอ้โห ฮือฮา น่าสนใจ เป็นที่น่าจับตามองมากๆ

ตื่นเต้นนนนนนนนนนนนนนๆๆๆๆๆ

แพนด้าน้อยลืมตาดูโลกแล้วว๊าววววววววววววววววววว

ทำไม ทำไมต้องตื่นเต้นและดีใจกันนักที่ลูกหมีแพนด้าเกิดมา
อาจจะใช่ที่แพนด้าเป็นสัตว์ที่น่าสนใจและอยากจะให้มันเกิดมา
แต่ทำไมคนไทยไม่ดีใจและตื่นเต้นบ้าง ถ้าช้างไทยตกลูก!!!!!!!!

อะไรที่เป็นของเราที่เรามีเราถึงไม่ดีใจและภูมิใจไปกับมันให้มากๆ

น่าจะสนใจลูกช้างไทยที่พึ่งเกิดมาบ้างได้ซักครึ่งหนึ่งของลูกแพนด้าที่ตื่นเต้นกันเหลือเกินในตอนนี้

ซึ่งความจิงน่าจะภูมิใจกว่าลูกแพนด้าที่ไม่ใช่ของเราไม่ใช่หรือ??

เด็กน้อย

เด็กที่ใครๆก็บอกว่าบริสุทธิ์ - ไร้เดียงสา
ทุกคนที่มองดูเด็กๆที่ยังไม่รู้ประสีประสาว่าอย่างนั้น
ซึ่งคำว่า บริสุทธิ์ กับไร้เดียงสาเป็นคำที่ดูไกล้เคียงกันมาก
ดังนั้นความบริสุทธิ์กับไร้เดียงสานั้นแตกต่างกันอย่างไร
ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานบอกไว้ว่า

บริสุทธิ์ นั้นคือไม่มีอะไรเจือปน ไม่มีมลทิน ปราศจากความผิด

และเดียงสา คือรู้ผิดชอบตามปรกติสามัญ(มักใช้ในความปฏิเสธ)เช่นเด็กยังไม่รู้เดียงสา

ดังนั้นก็น่าจะสรุปได้ว่าสองคำนี้น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมกับเด็กที่สุด
เพราะเด็กเล็กๆที่ยังไม่รู้เรื่องยังคิดไม่เป็นนั้นมักจะทำอะไรที่ไร้เดียงสาออกมา
โดยที่ยังไตร่ตรองไม่เป็นแต่ด้วยความที่ไม่รู้เด็กเหล่านั้นก็เลยบริสุทธิ์