วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งานเยอะเหมือนดาว

งานเยอะแต่ต้องอยุ่กับที่ ตอนนี้เหง๊า เหงา ไม่เหมือนปีที่แล้วเลย

งานเยอะ บ่น ต้องไปเรียนเจอเพื่อนจะเหม็นหน้ากัน

ตอนนี้สิไม่เห็นหน้าจนหน้าบูดกันไปหมดแล้วมั้ง คิดถึงเพื่อนๆ คิดถึงอาจารย์

คิดถึงอาจารย์นุ กับอาจารย์ติ๊ก ด้วยยยยยยยยยยยย

ตั้งใจทำงานนะเพื่อนๆสู้ๆ เย้ๆ เพื่อการจบของพวกเราเหอๆ

วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552

=chang birth day=

หน้าตาทุกคนบ่งบอกว่ามันส์ น่ะ

ไม่รุ้แหละรุ้แต่วาวันนั้นช้างดูพริ้มและปิ๊กดูเหมือนเด็กเสริฟ

ฮ่าๆๆเราไม่ได้แกล้งนะเหมือนจิงๆแต่ก็สนุกมาก

ผุ้คนรอบกาย............ไปหน่อย ไม่ขอพูด

แต่มีเพื่อนๆเยอะสนุกกันก้อพอและดีๆๆๆๆเจอกันปาร์ตี้หน้า

ทำบุญกัน

วันนี้วันเข้าพรรษาค่ะ ตื่นสายไปหน่อยแต่ยังไปทัน

ปีนี้บังเอิญว่า  คุณตามาเที่ยวที่บ้านพอดี เลยไปทำบุญกันหลายคน

สนุกสนานกันเชียวสวดๆๆๆๆเสร็จแม่จะกลับเอ๊าาาาาา

แม่ทำไมเราไม่กินข้าวที่วัดเลยล่ะ แม่บอกเอาน่าไม่ต้องไปแย่งกับเขา

เด๋วเราไปกินที่บ้านเอ๊าามันไกลไม่ใช่เล่นๆนะวัดนี้กว่าจะถึงบ้าน

ฮุ่ยยยยยยหิวอ๊ะะะ และทไหนๆก็ทำบุญแล้วกินข้าวที่วัด

รุ้สึกว่าได้บุญเยอะนู๋ขอกินนะ ฮ่าๆๆกินไปสองจานได้อิ่มทั้งท้อง

อิ่มทั้งบุญค่าาางานนี้ กินไปๆเจอแมว!!! คงไม่แปลก 

แต่ที่แปลกแมวหน้าใหญ่ เฮ้ยยยยยยยยยหน้ามันผิดสเกลกับตัวมันเลยนะ

แปลกมากตลกอ๊ะะะจับๆดูแล้วก้อไม่น่าจะใช่เปนเพราะกัดกันเพราะมันไม่ได้บวมแต่มันเปนเองเออๆเท่อีกและ

เป็นแมวก็เท่ได้นะเนี่ยยยยยดีจิงๆ หุหุ

Bulid ๐ A ๐ Bear

เอาอีกแล้วค่ะวันนี้ไปเซนทรัล ผ่านร้านนี้นะไม่ได้เลยยยยยยยย

ต้องแวะๆๆไม่รุ้ทำไมยังงั้น ฮ่าๆๆๆ เลยต้องไปสอยชุดมาให้ คุณสมร'

อ่าๆๆๆเด๋วจะงงกันน้องก๋อยของเราเองไปชุดใหม่มาสวย ใส ซิ่ง สะดิ้งกว่าเดิมค่ะ

ฮ่าๆๆๆๆๆอีกใจก้ออยากจะซื้อแฟนมาให้ลูกจั๊งงงงงงงงง

แต่ก็แหมมมมมมันจะหมดเงินเยอะไปนะเดือนนี้้ช่วงนี้ใช้จ่ายเปนว่าเล่นสงสานป๊าจิงๆ

แต่มันหยุดไม่ได้ฮุ่ยยยยทำไง นู๋ขอโท๊ดดดดค่าาาาาาา>0<"

มหาวิทยาลัยศิลปกร

 สนามจัน!! ทำนู๋เหนื่อยนะ ทำไมไกล๊ไกลล่ะฮ่วยยยยยยย

ไปช้านิดนึงโดนนังอ้วนบ่นซะยาวเลย

ไอ่คนที่จบ วิศวะฟู๊ดไซน์นี่มันเท่จิงๆเรียนเก่งก้อได้ทุน

วุ้ววววววววอยากจะได้มั่ง แต่ขี้เกียจอย่างนี้คงได้หรอก

ไงก้อดีใจกะเพื่อนนะคุณจตุพร 

คุนแม่บุนจันทร์คงปลื้มมมมมมมมม ยิ้มพริ้มเลยล่ะฮ่าๆๆ

เรื่องเดิมๆ

เบื่ออออออออออออออออออออออออออออออออออออ

มีแต่อะไรที่มันขวางหูขวางตา เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะอะไรแล้วอ่ะ มีไรก้อให้ได้ก้อเอาไป

อยากใช้ไรก้อเอาไปดิทำไมต้องมาทำท่าไมรับผิดชอบด้วยของก้อใช้อยุ่ด้วยกันน่าเบื่อที่สุด

อย่าให้กลับไปทำตัวไม่แคร์คัยนะไม่งั้นล่ะเรื่องใหย่เลยล่ะเพราะเราจะไม่เปนคนดีอีกต่อไป

เราจะรุ้สึกว่าทำไปแล้วโดนกลับมาอย่างนี้เสียความรุ้สึกอยุ่คนเดียวว่ะ

ก้อโดนเราเหวี่ยงไปแล้วกัน  ไม่ไหวจะแคร์

วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2552

เซเล่อร์มูนนนนน

5555555ข้าคือตัวแทนแห่งดวงจันทร์จะมาลงทันแกเอง

คิดถึงจังเลยอ๊ะะะะคิดถึงตอนเด็กๆที่ต้องตื่นขึ้นมานั่งเฝ้าว่าจะมารึยัง

ชอบเซเล่อร์จูปีเตอร์ โอ๊ยยยยยยยยยยพูดแล้วอยากจะแปลงร่าง

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเดี๋ยวก็วิ่งไปหยิบตลับแป้งมาทำท่าซะเลย

อิอิเดี๋ยวปนงั้นแล้วเพื่อนจะกลัวเอานะ
หาว่าเป็นบ้า


วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2552

โอ่ววววเพชร

ว๊ะะะฮ๊ะะะๆๆๆ สวยยยยไม่ใช่เล่นๆนะเราน่ะ

แหมๆๆๆวิ๊งวั๊บบบเชียวเวลาค่ำคืนมหาลัยคัยน๊า

มันดูดีจิงๆ เมื่ไหร่จะเสร็จค๊าาาาานู๋อยากวิ่งเข้าไปเหลือเกิน

เหลือเวลาอีกไม่นานนะที่นู๋จะเข้าไปเล่นได้อ๊ะะะ

เร็วๆเซ่ สวยเหลือเกินสารส้ม เอ๊ยยยยตึกเพชร


วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เฮ้ยยยยยยย

วันนี้ไปรอเพื่อนที่จะไปซื้อกระดาษทำงานกันรอตรงใต้สะพานลอยหน้ามหาลัย

ไม่เข้าใจว่าไอคนที่สูบบุหรี่เค้าไม่สนใจคนรอบข้างเลยรึไง!!!

ตัวเองก็อยุ่ต้นลมมาให้คนที่เค้าไม่ได้สูบ สูดดมกลิ่นที่พวกมนุษย์เห็นแก่ตัวพ่นออกมาทำไมนะ

ตัวเองสูบก้อปล่อยให้ตัวเองตายผ่อนส่งไปสิมาเอาเราไปตายด้วยทำไม

เราไม่ได้ไปมีอะไรกรองก่อนที่จะเข้าไปในปอดเหมือนพวกมันและยังมาต้องตายก่อนอีก

เห็นแก่ตัวจิงเบื่อ  เบื่อที่สุดที่จะต้องมาทนหงุดหงิดที่จต้องดมกลิ่นพวกนี้

ได้กลิ่นก็เสียจิต เห็นก็เสียจิตโอ๊ยยยยยยยโกรธอ๊ะะะะะ>0<

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552

มีน้ำใจจัง

วันนี้ไปนอนบ้านพี่แถวลาดพร้าวระหว่างทางกลับบ้านมันก็ดึกแล้วสองคนหิว^^

แตเหนื่อยเลยแวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่มีทางจอดรถแคบๆนั่งกินกันตามประสาข้างถนน

ร้านข้างๆก็ดูบอลสนุกสนาน อีกริมหนึ่งก็เป็นร้านยาดองดูน่ากัวคนกินก็ดูน่ากัว

ป้าคนขายก๋วยเตี๋ยวดูเงียบเหงานะฮ่าๆๆ

แอบคุยกันว่าเค้าคงเหงาเนอะนั่งเหงาๆคนไม่ค่อยเข้าอยุ่คนเดียวต้องขายทั่้งคืน

แต่จะช่วยอะไรเค้าได้ล่ะ เออช่วยไม่ได้จิงๆฮ่าๆๆกินต่อไปเหอะเราง่วง

พอตอนจะถอยรถออกด้วยความมืดเลยมองไม่เห็นกระถาง รถเลยโดนไปหนึ่งกึ๊ก

พี่คนนึงที่อยุ่ตรงร้านเหล้ายาดองวิ่งออกมาดูรถให้และช่วยโบกรถพักใหญ่จนออกไปได้ด้วยดี

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้เลยอ่ะว่าอย่ามองคนว่าดีหรือไม่ดีที่การแต่งตัวเพราะแบบเห็นพี่เค้าแต่งตัวดูแว๊นมั่กๆ

(ขอโทษนะคะ) แต่เค้ามีน้ำใจมากเลยอ่ะช่วยเป็นเดือดเป็นร้อนทั้งๆที่ไม่ใช่เรื่องของเค้าเลยด้วยซ้ำ

น่ารักจังเลยค่ะ วันนี้เลยรุ้สึกว่านอนฝันดีและเป็นอีกหนึ่งวันที่เจอคนดีให้รู้สึกอิ่มใจ

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2552

open house

แหมมมมมมันเท่จิงๆ ใส่ชุดstaff ดูเป็นรุ่นพี่อ่ะ

รุ้ดีไปซะทุกเรื่องงงงงงงงง

ถามไรมาตอบได้งานสวยมั้ยสวยยยยยยยยยยย

ห้องเรียนเป็นไงว๊าวววววววเท่

นี่แหละมากกว่ามหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยกรุ่งเทพ^^

ไงล่ะบางทีก้อเอาไรไรมาโป่ะๆปิดๆดูสร้างภาพบ้าง 

แต่ส่วนใหญ่มันก็ดูดีนะฮ่าๆๆๆเรารักบียู

บียู บียู บียู บียู บียู บียู วูววววววววววววววววส์

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ความดีของหนอนที่โดนมะกรูดหลอกฮ่าๆ

โอ่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

เหน็ด
เหนื่อยยยยย

หนอนน้อยเอ๋ยนึกว่าการทำนิทานหนึ่งเล่ม

มันง่ายนักรึไงห๊ะะะะะะะะ

ทำมาเปนจะทำนิทานประกวดโห่ววววววววววววววววว

เปนไงเร่งรีบ เกือบจะไม่เสร็จ

ลงสีน้ำก็เน่าฮ่่าๆๆๆ และยังจะกล้าอยากลงสีหมึกซึ่งด่างง่ายกว่าเปนร้อยเท่า อิอินึกว่าเก่งไง^^

แต่ก็เอานะส่งเป็นส่งฮ่าๆๆ โอ๊ยยยยยอยากได้รางวัลชมเชยจังอยากได้ตังค่าาาาาาาาาาาาาาาาา

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พับๆๆ

โห๊ววววววววววววววว พับกระดาษแบบพลิกๆๆๆไม่รุ้จบเลยอ๊ะะ

เท่ชิ๊ปปปปปปปปปเป๋งเลย โอลิกามิเพื่อนบอกว่างั้น

เอามาพับกันใหญ่เหม่ มันสะกิดใจจิงๆร้อนนนนนนนนนน

มันร้อนนนนนนวิชาค่ะเอากลับไปปบ้านให้เจี่ยเจี๋ยเล่น

เป็นไงอยากพับให้หลานเล่นน้ำลายยืดฮ่าๆๆ

พับๆๆๆๆๆเฮ้ยยยยยไหง๋มันไม่เปนหว่าาฮ่าๆๆๆพับไปลืมไป

พี่เลยบอกว่าไปเอาให่แน่ก่อนนะและค่อยมาสอนฮ่วยยยยยยยย

มาลืมไรตอนนี้อุส่าจะได้อยุ่แล้วเชียว- -* งื่มมมมมมมๆ

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เป็นอะไร

เอ่าเป็นอะไรอ่ะ ไม่รู้สงสัยจะเป็นบ้าอีกและ

เป็นอีกและจิตไม่ปกติอีกและช่วงนี้เบื่อออเบื่อไปหมดทุกอย่าง

มีคนมากมายรอบตัวฉันแต่กลับรู้สึกว่าไม่มีคัยเคยเป็นมะ

แต่ก็อย่างว่าแหละจิตตกไปเองบางทีมันไม่ได้มีอะไรแต่กลับป็นเราเองที่ทำให้มันมี

ว่างเปล่า    ล่องลอย  ยิ้มอย่างอ่อนล้าให้กับวันดีๆอยุ่เรื่อย   

อยากกอดป๊าจัง....อยากบอกแม่ว่านู๋เหนื่อยจังกอดหน่อย
อยากให้เจ๊มลปลอบใจพาไปเที่ยวหาไรกินกัน
โอ๊ยยยยยยยยท่าจะอาการหนัก

 บางทีการอยุ่คนเดียวมันก้อมีความสุขไม่ต้องแคร์คัยไม่ต้องคอยง้อทำไรเองได้ตามใจ..สบาย
 
แต่....บางทีมันก้อเหงา

ฮ่าๆๆๆเอาไงแน่ตลกอ่ะะะฮึ่ยยยยยยไปเปรี้ยวดีก่านั่งเบื่ออยุ่ได้เนอะๆๆๆ

งานการเยอะแยะเอาไรมาคิดมากมายให้เปลืองสมองเล๊าาาา

อย่าได้แคร์อะไรเลยจิงๆโอ๊ยยไม่เครียสและไปเล่นดีก่า

ซื้อขนมให้รางวัลตัวเองดีก่าฮ่าๆๆสบายใจจัง^______^

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Tawanna2

เมื่อวานไปตะวันนา มาไม่เคยไปมาเลยเหมือนกันค่ะเทอิ

ก่อนจะไปนะเราบอกแทกซี่ว่าไปตะวันนาสองค่ด้วยความที่เคยไปแต่ซื้อเสื้อผ้าตอนนั้นเดกมาก

แทกซี่ก้อเอ้าไปร้านไหนล่ะเที่ยวกันเยอะหรอเหยยยยไรอ่ะป่าวค่ะ

คือเราคิดว่าเค้าหลอกถามเราป่าววะกลัวเกินไงจิตตกเลยทำเปนรู้อ๋อไม่ใช่ร้านเที่ยวค่ะที่มันมีเสื้อผ้าเยอะๆ

สรุปฮ่าๆๆๆหนูโง่จิงค่ะมันเปนลานโล่งเชียวนั่งกินของมึนเมากันเกลื่อน

คัยจะไปรุ้อ๊ะะะว่ามันจะเปนงี้^^555555555


โหหหหหหหหหหหห เเลดูเถือน - - (อี นน บอก ชิล) ขอพูกตามอิเลย

ไม่เข้าใจเลยยยยยย ชิลตรงไหนของมัน

แต่คนที่ไปกินตงนั้นเค้าแต่งตัวเหมือกันจิงนะแบบเออคงไปสไตลคนแถวนั้นอ่ะ

แต่เราก้อมาช้ากว่าเพื่อนๆมาถึงเพื่อนเริ่มไปกันหมดและแล้วทำไมไม่บอกกก

ว่ามีผุ้ชายเอยะไมคิดว่าจะโล่งโจ้งและมากด้วยผุ้คนขนาดนี้โห่ยยยยเซงฮ่าๆๆๆๆ

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เห็นมา

เมื่อวานนี้บังเอินว่า on msn แล้ววววววววววววว

มองไปเห็นเพื่อนคนหนึ่งเขียนทอปปิคเอ็มเอสเอ็นว่า


บรรพบุรุษพวกคุณขี่แพนด้าออกศึกกันหรอคับ


ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆเออว่ะ

จะมีอีกกี่คนที่เค้าคิดกันแบบนี้และยังมีคนกี่คนที่ยังไม่รู้สึก

ไม่ได้จะเขียนบอกว่าเราไม่ชอบเรื่องนี้เอามากๆเลยเขียนอยู่ได้

แต่แค่เห็นแล้วมันก็แอบสะเทือนใจว่าทำไมต้องรอให้ใครมาทักท้วง

ว่ามันเป็นยังไงกับเรื่องนี้้ที่สำหรับใครหลายๆคนเค้ามองว่า

เป็นเรื่องที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเลย

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ธรรมมะสวัสดี

บังเอินว่าไปเจอที่เคยเขียนไว้อ่านแล้วเอ้ยดูมีประโยชน์นะเลยเอามาฝากดู

คือเรื่องที่เราเคยไปเข้าค่ายธรรมะกับทางมหาลัยเอ้าเด๋วเพื่อน งง ว่าเราเปนคนดี

ป่าวค่ะถ้าไปจะได้คะแนนเพิ่มเลยอยากไปคิดแค่นั้นม่ายยยยยโห่วววคัยจะไปรู้

ว่าเราธรรมะธรรมโมขนาดไหน^^เรากินเจทุกปีนะคะเหนหน้างี้ก้อเหอะ

เริ่มละนะ
ไปเข้าค่ายธรรมะมาค่ะ ที่วัดปัญญา   เปนวัดที่ดีมากกกก
 
เค้าบอกว่าที่วัดไม่มีเมรุเผาศพ....แต่สร้างเพื่อเผาผีในตัวคน หูยยยยเปนไง

วันแรกไปก้อเฉยๆ แต่หิวเพราะเค้าให้ถือศีล8 งดกินอาหารขบเคี้ยวหลังเที่ยง
 
  ตอน5โมงเยนจะมีนำปาณะ ให้ดื่ม คือน้ำ..ฟักทองก้ออร่อยดีแหละเหมือขนมหวานฟักทองไงงั้นเรย 
 
 ตื่นเช้ามาอีกวันก้อทำวัตรเช้า หืมมมมรู้สึกดีอ่ะ เหมือนแบบตูมมมบุญซัดเข้าใส่โฮ๊ะๆๆๆ
 
แต่แบบหิวมากเพราะมะเคยอดอาหารอ่ะเนอะกินลอดเวลาแบบจะตายแล้วอ่ะ

..แบบขอเล่าอ่ะมันหิวมากกก และวัดนี้เค้ามะเหมือนคัยไงชามพระชามใคๆก้อเหมือนกันหมดชามใหย่มากกก
 
พระอาจารยบอกว่าอย่าโลบ ตักแต่พอดีหืมมมตอนที่กะลังจะได้กินข้าวนะข้าวอยุ่ตงหน้า..
 
เราคิดเรยอ่ะว่า........โอ้ข้าวของชั้นนนนจะได้กินแร้วแกสำคัญที่สุดในโลกกกกก 
  
แบบมะเคยอยากกินข้าวและกินข้าวอย่างมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเรยอ่ะดีใจมากที่ได้กินข้าวปะมานนั้นเรย 5555ตลกอ่ะ


อันนี้คือสิ่งที่เจอากับตัวแต่สิ่งที่พระท่านสอนสิเจ็บยิ่งกว่า

เค้าสอนให้เราคิดดี  มองอะไรในแง่บวกไว้ให้กำลังใจตัวเองแต่อย่าหลงตัวเอง
 
แบบเราบ่นว่าเราเหนื่อยไม่อยากเรียนงานเยอะ  
พระบอกว่าคิดซะว่าเรายังดีที่มีเงินให้เรียนดีกว่าพวกที่เค้าไม่มีแม่แต่หนังสือให้เรียน
 
เบื่อที่แม่บ่น....ก้อให้คิดว่าดีที่เรายังมีแม่อยุ่   อะไรปะมานนี้
 
และก้อสอนเรื่องความรักของวัยรุ่น 
ให้เราเลือกว่าเราจะเปนต้นไม้ยืนด้วยตนเอง  หรือว่าจะเปนกาฝากคอยเกาะติดเค้าไปเรื่อย
 
สำหรับเรา  เราเลือกที่จะเปนต้นไม้นะ คนอื่นเราไม่รุ้แต่ไปคิดเอาเองว่าจะเลือกเปนอะไร
 
และก้อมีข้อความให้เราคิดแบบขำๆว่า.... "ผู้ชายม่ใช่เครื่องคิดเลข  อย่าเอามาคิดให้เปลืองสมอง"
 
555+เจ๋ง ง่ะคิดได้ไง
 

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Pai thailand

คัยคิดที่จะไปเที่ยวปายฟังทางนี้ค่ะ

กรุณาอย่าทำความสกปรกในที่ๆสวยงาม
ไปแล้วมีความปะทับใจก้อเอาขยะที่คุนทิ้งกลับไปด้วยและความสวยมันจะคงอยู่
อ่อ..ระวังเมาไม่ขับนะคะขอเตือน5555+ทั้งหมด700-800กว่าโค้งค้าบบ
และจะหาว่าไม่บอก     I หัวใจสีแดง PAI

ไปปายครั้งแรกประทับใจมากด้วยความที่เราไปอย่างสมบุกสมบัน

นั่งรถไฟจากกรุงเทพไปเชียงใหม่และขึ้นปายโดยรถบัสพัดลมที่มีแต่กะเหรี่ยงพุดกัน

แต่เค้าเก่งนะเค้าสามารถยืนจนถึงได้แต่บางคนถึงกับขึ้นไปนั่งข้างบนหลังคาเลยอ่ะ

หืมมมทำไมขนาดนั้นนนน
แบคแพคไปโหวววววเท่ชะมัดเรยโบกรถๆๆ

คนปายใจดีเราไปถามคนที่อยู่ปายว่าทำไมคนปายใจดีคะได้คำตอบมา
 ก้อเพระอากาศมันดี....เราเปนคนปายยย

คุนลุงก้อเท่ คุนป้าก้อเท่ พี่เอสก้อเท่ร้านแถวนั้นชิวว

ทำไมคนปายถึงดูยังไงก้อมีแต่คนเท่ๆนะเราอยากเท่มั่ง

เพราะงั้น....ไปอยุ่ปาย55555+
ขอบคุณรถทุกคันคนขับทุกคนที่จอดรับและไปส่งค่า

ขอบคุนพี่ๆที่รุ้จักกันที่นั่นพี่ที่พาเที่ยวไก่อร่อยพี่หน่อยร้านเจ๋งค่ะหนาวว
มีน้ำใจมั่กๆ..เอ่อ_พี่เปนคนที่ไหนคะ.? เปนคนปายยยยยวู้วววว์

วุ้วววสวรรคบนดิน
เมืองแห่งน้ำใจม่วนอ๊กม่วนใจ๋แต๊ๆเน้อ

ย๊ะอ๊ะหยั๋งกั๋น
......อยากอยุ่ปายเมินนๆเน๊อะ^^

คิดถึงปายยตุลานี้เจอกันเจ๊าาาาาคัยไปกะเรายกมือขึ้นน555

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Samed let's go to the sea

คัยอยากไปสเม็ดดดดดดดดมาม๊ะ เด๋วน้องจะพาทัวร์

สเม็ดไม่ได้แพงอย่างที่คุณคิดนะคะจะบอกให้

น้ำใสหาดสวยน่าประทับใจอย่างยิ่ง

แต่อย่ามาหน้ามรสุมเท่านั้นเปนพอค่ะเพราะเวลาข้ามไปเกาะคลื่นจะใหย่มากกกก

น่ากัวมากกกกกคลื่นอยู่ในระดับ1-2เมตรน่ากัวมั้ยล่ะ

แต่สวยจิงๆถ้าที่พักไม่เต็มและต้องการชิวจิงๆไปอ่าวลุงดำกันเหอะเงียบบบสงบน้ำเขียววสวย

แต่ทุกอ่าวล้วนสวยถ้าให้เทียบกับการอยากสบายเอารถข้ามเกาะได้อย่างเกาะช้าง

ก็ไปได้นะเกาะช้างก็ดีแต่ไปเสม็ดเจ๋งกว่าไม่ได้โม้นะ

เอ๊าาาาาท่องเที่ยวไทยเศรษฐกิจไทยคึกคักนะค๊าาาาาาา^^

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552

โกหก

โกหก หมายถึง ปด พูดเท็จ พูดไม่จริง

ทำไมคนเราถึงต้องโกหกล่ะนั่นสิคงไม่มีใครอยากโดนโกหกหรอก

แต่การโกหกนั้นมีหลายแบบมีทั้งโกหกแบบทำให้อีกฝ่ายสบายใจ

และโกหกเพื่อให้ตัวเองรอดพ้นในสถานการณ์ที่คับขันหรือหลายๆอย่าง

การโกหกของคนบางคนที่รู้ดีแก่ใจบางทีก็อึดอัดที่ทำแต่บางทีก็สนุก

เอ่าสรุปแล้วโรคจิตอ่ะแต่ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม
ไม่ใครโกหกแล้วอีกฝ่ายไม่รู้ ถึงแม้ว่าจะรู้ช้าหรือรู้เร็วยังไงก็ต้องรู้อยุ่ดี
หว่าาาาาาาต้องการอะไรเลยมาเขียนเนี่ย55

นั่นสิอ๊ะๆแอบมีอะไร

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บางทีเราก็แก่แล้วเนอะ

เมื่อวันก่อนเพื่อนโทรมาหาบอกว่าให้ไปงานรับปริณยาด้วยอืมมมไปดิๆว่างก็ไป

และตอนนี้เราก็ต้องคิดทีสิทด้วยยุ่งๆงานก็เริ่มยอะแล้วด้วยเปิดเทอมปี4แล้ว

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยo___0!ตกใจอ๊ะะ

นี่เราแก่แล้วหรอต้องมาคุยกันถึงเรื่องรับปริณญาทำทีสิทโอ้วววววววววววววววววว

แล้วหลังจากนี้อเวลาที่เราจเอเพื่อนคงต้องถามแล้วว่าทำงานที่ไหนแต่งานหรือยัง

ลูกเป็นไงบ้างเฮ้ยยยยมันเร็วจังอ่ะ

มะก่อนจำได้ว่าพุ่งนี้ไปเรียนวิชาไรเรียนพิเศษมั้ยเข้าค่ายหรือเปล่า

ทำการบ้านให้ด้วยนะแกล้งอาจารย์กันเข้าโรงเรียนสายกันก็แค่ต้องเก็บขยะ

ใจหายมากก็มะตอนที่ต้องออกจากโรงเรียนและแยกย้ายกับเพื่อนแล้วต้องมาถามว่ามึงเรียนที่ไหน

คณะอะไร ตอนนี้สิมันไปถึงไหนแล้วเวลามันเดินเร็วเหลือเกินหลายๆคนก็คงจะอยยากย้อนเวลากลับไปช่วงนั้นๆ
ที่ตัวเองมีความสุขแต่ก็ทำได้แต่เก็บไว้เป็นความทรงจำ น่าใจหายแต่ก็น่าปลื้มใจที่มาถึงตรงนี้
เรามาอยู่ตรงนี้แล้วนะถ้าป๊ากับแม่เห็นเราประสบความสำเร็จคงดีใจมาก

แต่มันน่าใจหายจิงๆและที่น่าใจหายคือตอนนี้รักมหาลัยไปแล้วแต่ก็ต้องจบต้องออก
ความรู้สึกเดียวกับต้องออกจากโรงเรียนตอนนั้นเลยน่ากัวจังกับสถานะใหม่ของตัวเรา
เราจะเปลี่ยนจากนักเรียนเป็นนักศึกษาและอีกไปนานเราจะเป็นคนวัยทำงาน!!!!!!!!!!!!!!

วันพุธที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มองคนละอย่าง

อ่านหนังสือมาเรื่องความรักของคนธรรมดาและคนตาบอด
คนปกติเค้าก็มองความรักแบบสวยงามบ้างคนที่ผิดหวังก็มองว่าไม่ค่อยดีบ้าง
แต่ก็ล้วนแต่ใช้ตามองก่อนทั้งนั้นโดยที่มองจากตัวบุคคลและตัวเรา
แต่คนตาบอดสิเค้ามองแง่ที่เป็นเค้าและดีจังอ่ะ
เค้าบอกว่าไม่รุ้หรอกว่าผู้หญิงหน้าตาดีเปนยังไงแต่ถ้าใครก็ตามมีน้ำเสียงที่ถูกใจ
มีอัธยาศัยไมตรีมีน้ำใจนั่นแหละคือผู้หญิงสวยของเค้า ว๊าวววววววววว
เออนึกแล้วก็อิฉาคนตาบอดเนอะว่าโลกของเค้าก็คงจะมีแต่คนสวยๆเต็มไปหมดอ่ะ
ดีจังมันมีอะไรให้เรามองความรักในแง่ดีอ่ะแบบว่าในหนังสือเึค้าังทิ้งท้ายว่า
มีคนบอกว่า ความรักทำให้คนตาบอด 
แต่ใครจะรู้   ถ้าตาบอดอยู่แล้ว .​....ความรักมันอาจทำให้ตาสว่าง
โหวววววววววววววววววววววววววววววววววว

อืมเราคงต้องมองความรักแบบนั้นดูบ้างสมัยนี้ใครๆก็มองกันแค่ภายนอก
ไม่รักกันจริงเหมือนเมื่อก่อนคงเพราะอะไรหลายๆอย่างมันเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและทำให้คนมั่นใจ
ว่าการอยู่คนเดียวมันไม่ตายมั้งเลยอยากทำอะไรก็ทำไม่แคร์กันไม่รักกัน
สรุปแล้วไอ้ที่เขียนมาไม่มีสาระฮ่าๆๆๆ

แต่อ่านแล้วก็แค่อยากให้คนเราลองมองกันดีๆ
เอามุมมองคนอื่นมาใช้บ้างเผื่อจะเจออะไรดีๆในชีวิตอย่างที่ไม่เคยเจอ
เราเชื่อว่าถ้าเราไม่เลือกที่จะมอบความรักให้ใครก่อน
แล้วใครล่ะจะกล้าเอาความรักความจริงใจมาให้เราน่าคิดนะ
ลองทำดูเซ่!!!!!

^________________^

วันจันทร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2552

เข้าใจแล้วในระดับหนึ่ง


ความรักของพ่อแม่ที่เค้าบอกว่ามีให้ลูกมากกกกกกกกกก มากเกินคำบรรยาย

เราก็รู้ว่ารักมาแล้วมันมากแบบไหนก็ไม่รู้หรอกว่ามากจนรู้สึกยังไง

จนได้มามีหลานหนึ่งคนที่เรียกว่าเห่อไม่ได้เพราะไม่ใช่แค่เห่อเพราะว่าถ้าแค่เห่อคงไม่ยาวนานขนาดนี้
หลานคนแรกที่คอยดูแลพี่ก่อนคลอดทุกคืนเวลาพี่เราตื่นจนวันที่คลอดออกมาเจอหน้ากัน
อุ้มหลานคนแรกชื่อ ซื่อเจี๋ย ^^ ดูแลอยู่ด้วยกันตลอด1เดือนทุกวันทุกเวลาเหมือนเป็นแม่เองเลยอ่ะ
ขนาดตัวเราเองเป็นคนที่ตื่นยากมากแต่กลับได้ยินเสียงหลานที่ร้องเพียงแอะเดียวอาจป็นเพราะความกังวลว่า
เค้าจะเป็นอะไรไม่สบายตัวรึป่าว อึ หรือฉี่มั้ย นอนควำ่หายใจออกหรือเปล่าหิวมั้ย
รักมากจนเห็นว่าหลานเจ็บไม่ได้ไม่อยากให้ป่วยไม่อยากให้เป็นอะไรพอจะเข้าใจแล้วว่าพ่อแม่คิดยังไง
และรัก ดูแลเรารู้สึกยังไง จนถึงตอนนี้ยังไงก็ยังรักและรักมากๆๆๆขึ้นไปอีกมันเลยไม่ใช่แค่ความเห่อแน่นอน

นี่ขนาดเราไม่ใช่คนที่อุ้มท้องและคลอดเองนะและลองนึกถึงคนที่เป็นพ่อแม่ดูสิเค้าจะรักและเป็นห่วง
ทนุถนอมเราขนาดไหน เวลาที่เรากลับบ้านไปตอนหลาน4เดือนแล้วจำเราไม่ได้เรายังร้องไห้เลยอ่ะ
และถ้าลูกพูดอะไรไม่ดีว่าพ่อแม่ แล้วท่านจะเสียใจแต่ไหนนึกขึ้นมาเลยว่าเราทำอะไรมั่งดูเป็นลูกที่เลวเลย
เสียใจจังตอนนี้พอจะเข้าใจว่าควรจะทำยังไงแล้วนึกถึงความรู้สึกป๊าแม่มากขึ้นเยอะก่อนจะพูดอะไร
บอกรักป๊ากับแม่มากและบ่อยขึ้นรู้สึกว่าถ้าลูกเราบอกเรา เราก็คงรู้สึกอีและมันอิ่มอ่ะ อิ่มตรงใจ

ว๊าาาาาาอยากกลับบ้านเลยอะเขียนเรื่องนี้คิดถึงเจี๋ยยยยยยยย
อยากไปกอดป๊ากะแม่ด้วยยยยยย

วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

บ๊อกแบ๊กก่อนนอน

บ๊อกแบ๊ก................คือน้องตุ๊กตามือตัวหนึ่งที่ต้องคุยกันก่อนเข้านอน

เวลารู้สึกไม่ดีก็จะให้บ๊อกแบ๊กกอดเพราะรู้สุกว่าเหมือนมีคนมากอดจริงทั้งๆที่มันก็เป็นมือเราเอง

ตลกดีนะคนเรา  มีงานที่อาจานบอกว่าให้เอาของที่ชอบไป20ชิ้น


บ๊อกแบ๊กคืออันแรกเลยที่หยิบงแรกที่คิดอาจจะเป็นเพราะมันคือเพื่อนมั้ง
และก็เปนของที่อาจารย์เลือกให้ไว้ทำงานเช่นกัน

ลองมองในมุมที่ไม่ได้ผูกพันมันก็แปลกดีเหมือนที่อาจารย์ว่าเออมันคือตัวอะไรก็ไม่รู้

ดูมหัศจรรย์ดีะนไม่ว่าใครคนไหนได้หยิบมันมาใส่ก็ต้องเหมือนมีอีกคนในร่างเออจิงนะ

ใส่มือเดียวก็เท่ากับมีสองคนถ้าใส่สองมือเราก็เหมือนคุยกันสามคนเฮ้ยยยยยย

เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยเท่อ๊ะะะ

ว๊าวววววววววววววววอาจารย์สอนให้มองแบบเท่ม๊ากอ๊ะจิงนะถ้าเราคิดได้เยอะและหลากหลาย

หลายมุมมองทั้งรูปธรมมนามธรรมถ้ามองแล้วคิดได้กับทุกๆอย่างทุกๆเรื่อง

เราก็อาจจะสนุกกับสิ่งที่เห็นที่รับรู้มามากขึ้น เพียงแต่ต้องคิดให้เป็นเท่านั้นเอง


แต่ไอ้คิดให้เป็นนี่สิต้องฝึกนะขอนู๋ใช้เวลาในการฝึกหน่อยค่า^^

วันอังคารที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ไอค๊อกแค๊กกะด๊อกกะแด๊ก


ตอนนี้ทุกคนกลับต้องใส่แมสปิดปากเพราะโรคระบาด

น่ากลัวและไกล้ตัวเกินไป

ไวรัส2009นี่มันใครคิดค้นมานะ 

มันเป็นไปได้หรือเปล่าว่า อาจมีคนอยู่เบื้องหลัง

ที่กำลังคิดวางแผนลดจำนวนประชากรโลก!!!! 

จึงให้คนคิ้ดค้นและสร้างโรคที่ยังไม่มียามาเพิ่มๆๆๆ

โรคนู้นโรคนี้ ห๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถามว่าทุกวันนี้มีกี่โรคแล้วที่ทางการแพทย์ยังคิดหายารักษาที่หายขาดไม่ได้
 
หรือเพราะมนุษย์สมัยนี้ตายยากขึ้น เพราะมียารักษาโรคที่ดีและทันสมัย


หรือเป็นเพราะการแพทย์ในปัจจุบัน ฉลาดมากเกินไปจนต้องหาอะไรที่ทำแล้วมันท้าทายความสามรถ

มันเลยเกิดโรคอะไรเพิ่มขึ้นๆๆอย่างรวดเร็วอย่างทุกวันนี้




โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย  กลัวอ๊าาาาาาาา

.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.​.

หรือต่อจากนี้อีกหน่อย


ไวรัสระบาด สุดท้ายมนุษย์จะกลายเป็นซอมบี้


เอ๊ะ................หรือว่าเราคิดมาไปเองหว่าฮ่าๆๆๆๆๆ

วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แพนด้าน้อยชื่ออะไรดีเอ่ย

ส่งมากันเร๊วววววววววววววว

ส่งมากันเยอะๆ ช่วยกันร่วมมือตัดเศษกระดาษส่งมาค่ะ

ชื่ออะไรดี จิงเทียน หลินช่วง หมิ๋งๆ อาตี๋อาหมวยอาหมีแหม่ๆๆๆๆ

มันสสสสสสสส์กันใหย่เลยนะคะคนไทย

ไหนรัฐบาลบอกว่าให้ช่วยกัน ลดโลกร้อนช่วยกันคิดก่อนจะทำอะไร
และส่งไอที่ตั้งชื่อไปเป็นจำนวนเท่าไหร่สุดท้ายก็เอาไปทิ้งอยู่ดี
ขยะเกลื่อนเมือง ใช้งานไม่ได้
และช่วยลดกันยังไง ดีดี๊ดี นี่แหละsaveช่วยโลกค่า

5555555555555ทำกันต่อไปนะคนไทย

วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แพนด้า

โอ้โห ฮือฮา น่าสนใจ เป็นที่น่าจับตามองมากๆ

ตื่นเต้นนนนนนนนนนนนนนๆๆๆๆๆ

แพนด้าน้อยลืมตาดูโลกแล้วว๊าววววววววววววววววววว

ทำไม ทำไมต้องตื่นเต้นและดีใจกันนักที่ลูกหมีแพนด้าเกิดมา
อาจจะใช่ที่แพนด้าเป็นสัตว์ที่น่าสนใจและอยากจะให้มันเกิดมา
แต่ทำไมคนไทยไม่ดีใจและตื่นเต้นบ้าง ถ้าช้างไทยตกลูก!!!!!!!!

อะไรที่เป็นของเราที่เรามีเราถึงไม่ดีใจและภูมิใจไปกับมันให้มากๆ

น่าจะสนใจลูกช้างไทยที่พึ่งเกิดมาบ้างได้ซักครึ่งหนึ่งของลูกแพนด้าที่ตื่นเต้นกันเหลือเกินในตอนนี้

ซึ่งความจิงน่าจะภูมิใจกว่าลูกแพนด้าที่ไม่ใช่ของเราไม่ใช่หรือ??

เด็กน้อย

เด็กที่ใครๆก็บอกว่าบริสุทธิ์ - ไร้เดียงสา
ทุกคนที่มองดูเด็กๆที่ยังไม่รู้ประสีประสาว่าอย่างนั้น
ซึ่งคำว่า บริสุทธิ์ กับไร้เดียงสาเป็นคำที่ดูไกล้เคียงกันมาก
ดังนั้นความบริสุทธิ์กับไร้เดียงสานั้นแตกต่างกันอย่างไร
ในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถานบอกไว้ว่า

บริสุทธิ์ นั้นคือไม่มีอะไรเจือปน ไม่มีมลทิน ปราศจากความผิด

และเดียงสา คือรู้ผิดชอบตามปรกติสามัญ(มักใช้ในความปฏิเสธ)เช่นเด็กยังไม่รู้เดียงสา

ดังนั้นก็น่าจะสรุปได้ว่าสองคำนี้น่าจะเป็นคำที่เหมาะสมกับเด็กที่สุด
เพราะเด็กเล็กๆที่ยังไม่รู้เรื่องยังคิดไม่เป็นนั้นมักจะทำอะไรที่ไร้เดียงสาออกมา
โดยที่ยังไตร่ตรองไม่เป็นแต่ด้วยความที่ไม่รู้เด็กเหล่านั้นก็เลยบริสุทธิ์